พระพิราพปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระพุทธหายโศกทศพลญาณ

พระพุทธหายโศกทศพลญาณ
พระพุทธรูปองค์นี้ปั้นไว้สมัยก่อนน้ำท่วมใหญ่เกือบปี
แต่มีเหตุให้หยุดสร้างไป
หน้าตัก 9นิ้ว ปาง สมาธิราบ
 จนกระทั้งมีโอกาสหล่อพระที่โรงหล่อจึงให้ช่างพ่วงหล่อด้วยก่อน2องค์
เป็นเนื้ออะลูมีเนียม(งบน้อย)
พระพุทธหายโศกทศพลญาณ 
องค์แรกถวายพระเทพสารเวทีเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
ในงานเททองสมเด็จพระปัจเจกฯองค์ปฐม 
ส่วนองค์ที่2ถวายพร้อมสังฆทานที่ วัดบางกร่าง นนทบุรี
ซึ่งในวันถวายพระทั้ง2องค์2ครั้งนั้นมีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจมากมาย
ตอนนี้ก็เลยจะหาทุนสร้างเพิ่มอีกเรื่อยๆถวายไปเรื่อยๆ
เรื่องก็มีประมาณนี้ครับ
.........

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

พญานาค 7 เศียร

ประว้ติและเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคนั้นขอยกไว้ก่อนครับ
เอาเฉพาะส่วนของที่ผมสร้างก็พอ
เรื่องมีอยู่วา......
 งานนี้ผมขึ้นรูปไว้นานมากครับเกิน2ปีน่าจะได้
แต่ปั้นยังไงก็ไม่เสร็จสักที
จนกระทั่งมีโอกาสเข้ากราบหลวงพ่อน้ำมนต์
ที่สำนักปฏิบัติธรรม จ.นครปฐม
เมื่อก่อนสิ้นปี 2556 ไม่กี่วัน 
ก่อนหลวงพ่อเดินทางไปต่างประเทศ
 วันนั้ผมขับรถหลงทาง 
ไปก็ถึงค่ำมากและเขากำลังถวายสังฆทานกันอยู่
นั่งรอจนเขาเสร็จธุระกัน
ผมก็เข้าไปกราบหลวงพ่อเพื่อจะกราบลา
 หลวงพ่อท่านก็บอกว่าอยากให้ผมทำพญานาคให้หน่อย
จะเอาไว้บรรจุเส้นผมท่าน แบบก็แล้วแต่ช่าง
ผมก็เล่าเรื่องที่ผมขึ้นรูปพญานาคไว้แล้ว2ปี
ถึงทีได้เวลาเสร็จก็คงเป็นงานนี้

 หลวงพ่อท่านบอกว่าจะกลับมาเมืองไทยราว ก.พ.-มี.ค.
ถือว่ามีเวลามากปั้นไปก็เกิดเหตุโน่น นี่ นั่น ตามเรื่องตามราว
เจ็บไข้ได้ป่วยบ้างเป็นปรกติ
ก็พอดี อาจารย์ใหญ่ของเวียงนาคราช 
ท่านบอกว่าให้เสร็จช่วงนี้ๆๆๆและถวายช่วงนั้นๆๆๆๆ
อันเป็นช่วงนาคเปลี่ยนน้ำ
(อันนี้ไม่รู้ความหมาย)
ซึ่งระยะเวลาที่ อ.ใหญ่เวียงนาคราชบอกนั้น
มันตรงกันวันที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนั้น
มีงานฉลองพระบรมสารีริกธาตุพอดี
 ผมก็เลยเร่งหล่อ ในวันเสาร์ ที่ 5 เม.ย.2557
และถวาย ในวัน จันทร์ที 7 เม.ย. 2557 
ก่อนวันฉลองพระบรมสารีริกธาตุหนึ่งวัน
งานนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี
ส่วนท่านที่จะอัญเชิญพญานาคองค์นี้ไปถวายพระ
หรือบูชาเองที่บ้านก็ติดต่อผมไดเลยครับ 
ขนาด กว้าง 30 ซม.  สูง50ม.
มีฐานบัวหงายรองรับผอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง 5นิ้ว
(ยังมีภาค 2 นะครับรอซักระยะ)

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

เทวดาประจำทิศทั้งแปด

เทวดาประจำทิศทั้งแปด
คติการเคารพนับถือเทวดาหรือเทพเจ้าในสังคมไทย
มีมาช้านานและมีการผนวกเอาความเชื่อดั้งเดิมในท้องถิ่น
กับความเชื่อทางพุทธศาสนาเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่นแยกกันแทบไม่ออก
แต่ในส่วนของบทความนี้จะเน้นเฉพาะที่เป็นรูปแบบเท่านั้น
ไม่ขอลงรายละเอียด
1.พระไพศรพณ์(พระ-ไพ-สบ)
พระวรกายสีทอง พระภูษาแดง พระหัตถ์ขวาถือกระบอง
 พระหัตถ์ซ้ายให้อภัย ทรงมนุษย์เป็นบริวาร
 เป็นเทพยดาประจำทิศ อุดร(ทิศเหนือ)
มีหน้าที่รักษาความเรียบร้อยยุติธรรมในสวรรค์
เป็นเทวดา สัญญลักษณ์ของอัยการ
พระไพศรพณ์มีลักษณะคล้ายกับท้าวกุเวร(หรือ ท้าวเวสสุวรรณ) 
ซึ่งบางตำนานมีการบอกเล่ากันมาว่าเป็นเทพองค์เดียวกัน 
 2.พระยม(ท้าวพญายมราช)
พระวรกายสีดำ ภูษาแดง 
พระหัตถ์ขวาทรง คฑา เชือกหรือบ่างบาศ
บางตำราบอกว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์
 ทรงควายเป็นพาหนะ เป็นเทวดาประจำทิศ ทักษิณ(ทิศใต้)

3.พระอินทร์
ทรงช้างเป็นพาหนะ พระวรกายผิวคล้ำ ภูษาแดง 
พระหัตถ์ขวาทรงถือวัชระ(ตรี)
บางตำราบอกว่าพระหุตถ์ซ้ายทรงขอช้าง 
เป็นเทวดาประจำทิศบูรพา(ทิศตะวันออก)
4.พระวรุณ(พระพิรุณ)
เทพห่ งฝนพระวรกายสีขาว พระภูษาสีเหลือง 
พระหัตถ์ขวาทรงถือเชือกบ่วงบาศ 
เมื่อมีผู้ทำบาปพระพิรุณจักใช้บ่วงคล้องผู้นั้นไปหาพญายมราช
เพื่อนำไปลงทัณฑ์   พระหัต์ซ้ายทรงประทานพร
 ทรงม้าเป็นพาหนะบาง ตำราบอกว่าทรงจระเข้
 เป็นเทวดาประจำทิศประจิม(ทิศตะวันตก)
พระวรุณในความเชื่อของคนไทยว่าเป็นผู้ให้ฝน ให้น้ำ ถือพระขรรค์
 ทรงพญานาค หรือมกร เป็นพาหนะ จึงเป็นสัญลักษ์ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวกับการเกษตร อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 5.พระอิศาณ
พระวรกายสีขาว พระภูษาสีขาว 
พระหัตถ์ขวงทรงถือตรีศูล
บางตำราบอกว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงถือสังวาลย์นาค
 ทรงวัวเป็นพาหนะ เป็นเทวดาประจำทิศอีสาน(ตะวันออกเฉียงเหนือ)
6.พระอัคนี
พระวรกายสีแดง ภูษาสีแดง
บางตำราบอกว่าพรหัตถ์ขวาทรงช้อน
 พระหัตถ์ขวาทรงหอก
บ้างก็มี ขวาน คบไฟ สายประคำ
พาหนะคือแกะ  
เป็นเทวดาประจำทิศอาคเนย์(ทิศตะวันออกเฉียงใต้)
7.พระไนรฤติ(พระนิรฤติ) 
พระวรกายสีขาว ภูษาสีเหลือง
พระหัตถ์ขวาทรงถือดาบ บ้างก็ว่าพระหัต์ซ้ายทรงโล่
พาหนะคือม้า เป็นเทวดาประจำทิศ หรดี(ทิศตะวันตกเฉียงใต้)
8.พระพายุ
พระวรกายสีดำ พระภูษาสีขาว
พระหัตถ์ขวาทรงถือธง บ้างก้ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์
 มีกวางเป็นพาหนะเป็นเทวดาประจำทิศ พายัพ(ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)
............