พระพิราพ
วันนี้นำผลพวงจากการปั้นองค์พระพิราพองค์ใหญ่มาให้ชมครับ
จากบทความก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าส่วนที่เป็นกระจังหน้า
พระพิราพองค์ใหญ่นั้นจะมีหน้าพระพิราพเล็กๆติดอยู่
ก็เลยนำมาหล่อแล้วปิดทองเขียนสี เลี่ยมกรอบกันน้ำไว้พกพาติดตัวครับ
นอกจากจะมีพระพิราพหน้าทองแล้วยังมีหน้าม่วงอีกนะครับ
ฝีมือการเขียนสีนั้นช่างสุดยอดฝีมือจริงๆ
เท่านั้นยังไม่พอครับเมื่อพลิกไปด้านหล้งก็จะเจอกับ
เศียรพ่อแก่ขนาดเล็กที่มีคนใจดีแบ่งให้บูชาติดตัวอีก
เล็กขนาดนี้ช่างสีก็ยังสามารถปิดทองเขียนสีได้อีก
พระพิราพหน้านี้ก็เหมือนกันครับ
ถ้าดูจากพระพิราพองค์ใหญที่ปั้น
พระพิราพหน้านี้จะเป็นแหวนพระพิราพที่ติดอยู่กับนิ้วทั้ง 10
มีทั้งที่เป็นพระพิราพหน้าทองและพระพิราพหน้าม่วง
และที่จะลืมไม่ได้คือเศียรพ่อแก่จะต้องมีติดไว้ด้านหล้ง
ของพระพิราพทุกอันครับ
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจนึกตำหนิว่าหล่อด้วยเรซิ่น
แล้วมันจะมีค่าอันใดเล่า
ผมก็จะอธิบายว่าเราใช้ตัวเรซิ่นให้เป็นประโยชน์
เรื่องความแข็งความแกร่งและสามารถผสมผงต่างๆได้ตามต้องการ
พูดง่ายๆคือเรซิ่นจะเป็นตัวห่อมวลสารทั้งหลายนั่นเอง
ในส่วนที่ผมทำไว้บูชาส่วนตัวและแจกจ่ายเฉพาะคนไกล้ชิดนั้น
ผมจะบอกถึงแหล่งที่มาของมวลสารเหล่านั้น
แล้วถ้าถามว่า เองเป็นใครถึงกล้าทำของอย่างนี้
ก็ตอบว่าผมทำได้ครับเพราะการปั้นพระพิราพองค์ใหญ่นี้
มีการทำพิธิที่ถูกต้องครบถ้วน
คนทำพิธีก็เป็นครูของผมเอง
ผมไม่ได้ทำขายเอากำไร
ผมทำน้อยคนที่ได้ก็ไม่กี่คน
ถ้าจะเปรียบก็เหมือนเรานำของขึ้นไหว้พระหรือไหว้ครูนั่นเอง
เสร็จงานแล้วก็ลาของเหล่านั้นมาดื่มกินได้ฉันท์ใด
งานนี้ก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับคำอธิบาย
.......................
ถ้าจะดูประมวลภาพการทำงานโดยตลอดก็
คลิ๊ก
http://www.saks108.blogspot.com/
........................
ส่วนงานหน้าจะเป็นอะไรนั้นก็ค่อยติดตามนะครับ
สว้สดี
...