พระพิราพปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

กะลาแกะพระราหู


กะลาแกะพระราหู

ระยะหลังๆมานี่มีกะลาตาเดียวมาให้แกะเยอะครับ

แต่ลูกที่นำมาลงในบล็อกวันนี้

พิเศษหน่อย ลูกกลม ดำขลับ ขนาดกำลังสวย

แกะค่อนข้างยาก ลื่น เพราะมีน้ำมันใหลตลอดเวลา


กะลาแกะพระราหู

ดูให้ดีจะเห็นว่าเป็นคนละลูกกับที่ผมเคยลงในบล็อกนะครับ

ส่วนจะแตกต่างกันยังไงก็เปรียบเทียบดูเอาเอง


กะลาแกะพระราหู

แต่ที่เหมือนกันก็คือนอกจากแกะพระราหูแล้ว

ด้านหลังก็แกะด้วยสังข์กัจจายทับบนพระปิดตาอีกที

กะลาแกะพระราหู ดูกับใกล้ๆอีกทีครับ ส่วนน้ำมันที่ซึมออกมาและผงกะลาที่เกิดจากการแกะนั้น ก็เก็บไว้อย่างดีครับ รอเวลาหาของเล่นแปลกๆใหม่ๆ คงมีโอกาสได้ใช้แน่ กะลาแกะพระราหู ถ้าดูด้านบนก็จะเห็นว่ามะพร้าวลูกนี้ไม่มีตาครับ หรือที่นิยมเรียกกันว่ากะลาตาบอด กะลามหาอุด,กะลามหาอุต ....................

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

พระพุทธรูป

ต่อจากบทความตอนที่แล้วครับ

วันอาทิตย์ ที่ 27 มี.ค. 2554 เป็นวันพระพอดี

ออกเดินทางจากที่นัดหมาย โดยใช้เส้นทาง ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี

ผ่านทางเข้าวัดศรีษะทอง(วัดพระราหู)

ไปหน่อยก็จะเจอทางเข้าวัดบ่อตะกั่ว

เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 7-8 กิโลเมตร

ผ่านวัดบ่อตะกั่วไปอีกหน่อย

ก็เลี้ยวซ้ายอีกที ไปที่วัดโคกพระเจดีย์


พอไปถึงก็มีชาวบ้านส่วนหนึ่งพร้อมกับพระเจ้าภาพ

กำลังรอต้อนรับอยู่ครับ

ไปถึงก็แห่พระรอบโบสถ์ 3 รอบ

แล้วนำพระเข้าโบสถ์

ส่วนนี้เป็นส่วนของพระเจ้าภาพครับ

จุดธูปเทียนตามประเพณี


ประพรมน้ำมนต์ตามประเพณี

จากนั้นก็นำพระขึ้นไว้บนศาลา จัดเตรียมอาหารคาวหวานเลี้ยงพระ (เลี้ยงพระเพล) นอกจากนี้แล้วก็ยังมีการโยงสายสิญย์ พร้อมร่วมกันกล่าวคำถวายพระพุทธรูป พระสงฆ์ให้ศีลให้พร กรวดน้ำ ก็เป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นก็นั่งคุยกันกับพระเจ้าภาพถึงสาเหตุการสร้างพระ พร้อมรับแจกพระเหรียญที่ระลึก สักพักก็กราบลา แยกย้ายกันกลับ ............ งานนี้ผมก็ออกแรงเป็นหลักครับ เพราะกำลังทรัพย์นัอย แล้วก็บอกกล่าวกันเฉพาะในกลุ่ม เอาแค่เสร็จหนึ่งองค์ก็พอ ถ้าบอกคนมากก็จะได้เงินมาก ตัวผมก็จะร้อนมากตามไปด้วย ......... ครั้งหน้าก็จะสร้างอีกองค์ครับ จะแล้วเสร็จก็ไม่น่าจะเกิน เดือน พฤษภาคม นี้ เหตุก็เนื่องมาจาก ในกลุ่มก๊วนเดียวกันเกิดเดือนพฤษภาฯหลายคน และทุกคนก็เห็นดีที่จะสร้างอีกองค์ครับ สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ครับ สวัสดี ..........