พระพิราพปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

กะลาตาเดียว

กะลาตาเดียว
ระหว่างที่รอฤกษ์จะขึ้นงานชิ้นใหม่
พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีกะลาตาเดียวอยู่ 2 ใบ
ที่รับปากใครบางคนไว้ว่าจะแกะพระราหูอมจันทร์ให้
ก็เลยนำมา แกะๆ แคะๆ ขูดๆ ขีดๆ
ก็...ออกมาอย่างที่เห็นในรูปครับ
ชิ้นแรกในชีวิตสำหรับงานแกะกะลาตาเดียวรูปพระราหูอมจันทร์
ถ้าไม่นับรวมเอางานปั้นพระราหูเข้าไปด้วย
ส่วนเครื่องมือแกะกะลาตาเดียว
ก็ สิ่วตัวเล็กๆ ตัวเดียวที่เห็นในรูปก็พอแล้วครับ
...............................................................
ทีนี้ก็ลองมาดูว่า กะลาตาเดียวนั้นมีลักษณะยังไง
เขาว่า กะลาตาเดียวจะมีลักษณะ 1ปาก กับอีก1รูที่สามารถงอกได้
ถ้าไม่มีตาเลยเรียกกะลามหาอุดใช้ดีดุจกัน
วันจันทร์ดับตามปฏิทินนำมาตั้งขอพรกลางแจ้งต่อพระราหูก็ได้
ทีนี้ กะลาตาเดียวมีทั้งตัวผู้ ตัวเมีย
แล้วจะดูรู้ได้อย่างไร..............?
กะลาตัวผู้จะมีรอยนูนที่ก้นกะลา3ขีด ส่วนตัวเมียนั้นมี2ขีดแบ่งส่วน
แสดงว่ากะลาตาเดียวที่ผมแกะอยู่นี้
เป็นตัวผู้ครับ เพราะมี 3 ขีด
กะลาตาเดียวแกะพระราหูอมจันทร์
แล้วความเชื่อที่มีต่อกะลาตาเดียวเป็นอย่างไร
ก็สืบค้นตามเน็ตก็ได้ความว่า......

คนในสมัยโบราณนับถือกะลาตาเดียวเป็นวัตถุที่มีอาถรรพ์ที่มีฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเอง
จึงนำกะลามะพร้าวที่มีตาเดียวมาแกะเจาะรู
เพื่อติดตัวใช้สำหรับเดินทางเข้าป่าหาอาหาร
ไว้สำหรับป้องกันภัยร้ายต่างๆที่จะมาถึงตัว
ส่วนกะลาทั้งลูกชาวบ้านมักจะนำไว้บูชา
อธิษฐานขอสิ่งต่างๆให้กับครอบครัว
ต่อมาเข้าในสมัยสุโขทัย ได้มีชาวบ้านนำกะลาตาเดียว
มาเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ สำหรับติดตัว เพราะถือกันว่า
เป็นเครื่องรางของขลังสามารถป้องกันคุณไสย และภูติผีปีศาจได้
และยังทำให้ผู้ที่มีติดตัวไว้มีโชคมีลาภอีกด้วย
หรือแกะเป็นรูปพระราหูแขวนเป็นประจำกาย

ในสมัยรัตนโกสินทร์ มีประวัติกะลาตาเดียวทั้งลูก ว่ากะลาตาเดียวทั้งลูก
หรือมะพร้าวตาเดียวเอาเนื้อมะพร้าวออกหมดแล้ว จะเหลือแต่กะลาทั้งลูก
ที่ไม่มีรอยแตกร้าว จะเป็นที่นิยมของพวกพ่อค้า-แม่ค้า ชาวไร่
ชาวสวน ชาวนา และคู่บ่าวสาวที่แต่งงาน
ตลอดจนพวกข้าราชการชั้นเจ้าขุน เจ้าพระยา
จะนิยมเก็บไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่ามีไว้ในบ้านแล้ว จะช่วยส่งเสริมบารมี
ให้มียศฐาบรรดาศักดิ์ สูงขึ้นเร็วกว่าคนอื่น
และจะช่วยล้างอาถรรพ์ที่เป็นเสนียดจัญไรภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
และทำให้มีกินมีใช้ มีเงินมีทองมากขึ้น ไม่รู้จักหมด
ส่วนบางครอบครัวที่แต่งงานให้ลูกหลาน
และอยากให้ลูกหลานตนมีความสุขมากยิ่งขึ้น
ไม่ให้แตกแยก เลิกร้างจากกัน ก็จะแกะชื่อ-สกุล
ฝ่ายชายลงในแผ่นไม้รัก แล้วใส่ในกะลาตัวเมีย
ส่วนชื่อ-สกุล ฝ่ายหญิง ก็จะแกะลงในแผ่นไม้รักอีกแผ่น
แล้วใส่ในกะลาตัวผู้
เก็บไว้คู่กันในบ้าน ก็จะรักกันชั่วนิรันดร
สมัย ปู่ ย่า ตา ยาย ที่รู้เรื่องกะลาตาเดียว เล่ากันว่า
ยังมีคู่บ่าวสาวที่แต่งงานกัน ไม่ให้สามีของตนนอกใจไปรักหญิงอื่น
ก็จะแกะสลัก ชื่อ-สกุล ทั้งคู่ สามี-ภริยา ลงในแผ่นไม้รักแผ่นเดียวกัน
แล้วใส่ลงในกะลาตาเดียว ก็จะทำให้สามีหลงรักตนคนเดียว
ไม่นอกใจไปรักหญิงอื่น ส่วนสามีก็เช่นกัน
ถ้าต้องการให้ภริยาเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดี
ก็จะแกะสลัก ชื่อ-สกุล สามี-ภริยา ลงในแผ่นไม้รักแผ่นเดียวกัน
แล้วใส่ลงในกะลาตัวผู้ ก็จะทำให้ ภริยาไม่นอกใจ ไปมีชู้
โดยเฉพาะพวกข้าราชการทหารที่ออกรบ หรือไปประจำการตามหัวเมืองต่างๆ กะทันหัน
ในช่วงเวลาที่แต่งงานกันใหม่ๆ แล้วจำเป็นต้องราชการแล้วนำภริยาไปด้วยไม่ได้
กะลามะพร้าวตาเดียว ถือกันว่าเป็นวัตถุอาถรรพ์
ที่มีฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แม้ว่าไม่ต้องปลุกเสกก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์

แล้ว กะลาตาเดียว มีคุณวิเศษหลายอย่าง

1. ใช้สำหรับตักข้าวสารใส่หม้อ เวลาหุงข้าวกิน หากว่านำติดตัวไปประกอบอาชีพ
ธุรกิจ จะทำให้เกิดทรัพย์สมบัติบริบูรณ์
หากเป็นชาวไร่ ชาวนา และพืชในไร่งอกงามดี
หากเป็นข้าราชการก็จะเจริญทางยศฐาบรรดาศักดิ์ ได้เป็นหัวหน้า
เป็นนายคน เป็นใหญ่เป็นโตเร็วกว่าคนอื่นๆ
2. ใช้เป็นเครื่องรางของขลัง ติดประจำกายไว้กับตัว
เพราะกะลาตาเดียวเป็นอาถรรพ์มีดีอยู่ในตัวแล้ว
หากว่ามีการนำไปปลุกเสกลงคาถาอาคม
ก็จะยิ่งมีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
3. ใช้สำหรับเป็นสิ่งป้องกันเสนียดจัญไรป้องกันคุณไสยและภูติผีปีศาจได้
ใช้แก้ผีเข้า ของมีคมเข้าตัว ใช้ล้างอาถรรพ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน
เช่นปลูกบ้านทับของมีอาคมร้าย ซากศพ บ่อน้ำ บ้านตั้งอยู่กลางสามแพร่ง
และอื่นๆ ที่ส่งผลร้ายให้แก่ผู้อาศัย ให้กลับกลายเป็นดีได้
4. ใช้ป้องกันภัยอันตรายต่างๆได้ เช่นทำให้แคล้วคลาด
จากอุบัติเหตุต่างๆที่จะมาถึงตัว
5. ใช้ทำเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ติดตัวเป็นประจำ
จะทำให้สุขภาพแข็งแรงดี โรคภัยไข้เจ็บ จะไม่ค่อยมาเบียดเบียน
ที่เจ็บป่วยอยู่ก็จะทำให้สุขภาพดีขึ้น
6. นำบูชาอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดโชคลาภสม่ำเสมอ
ทรัพย์สินเงินทองจะหลั่งไหลมาเทมาไม่ขาดสาย
7. นำพกพาไปค้าขายก็จะค้าขายดี นำติดตัวไปซื้อของก็จะได้ของมามาก
ทั้งที่มีเงินนิดเดียว ถ้าขายของก็จะได้เงินเข้ามามาก
แต่ของที่ขายไปดูยังไม่ยุบไปเท่าไหร่
8. คนสมัยโบราณ ใช้นำเป็นเครื่องมือแพทย์
โบราณใช้ในการตัดต้อที่ตาของคน ให้หายขาดได้
9. ใช้เป็นยารักษาโรคอัมพาต
โดยนำทั้งลูกมาผ่า แบ่งเป็นสี่ส่วน
ให้นำชิ้นนึงไปทางทิศตะวันตก
อีกสามชิ้นส่วน มาต้มน้ำ มาต้มน้ำกินน้ำทุกวัน
วันละ 3 มื้อมื้อละ 1 แก้ว ถ้าหมดก็นำมาแบ่งเช่นเดิม
แล้วต้มกินอีก ไม่นานก็จะหายจากอัมพาต
ส่วนกะลาตาเดียวลูกที่ 2 นั้น
หน้าตาจะเป็นอย่างไรก็คงจะเร็วนี้ครับ
...................